GoUni – เรียนต่อต่างประเทศ

ทำความเข้าใจระบบการศึกษาประเทศอังกฤษ (สหราชอาณาจักร)

เคยสงสัยกันไหมว่า..ระบบการศึกษาของไทยต่างจากของอังกฤษอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

SECONDARY EDUCATION

ในระดับมัธยมศึกษา นักเรียนจะต้องเรียนหลักสูตร GCSE (General Certificates of Secondary Education) เริ่มตั้งแต่อายุ 14 และจะเรียนไปจนถึงอายุ 16 (เทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4 ของไทย) โดยสามารถเลือกเรียน 8-12 วิชาที่เกี่ยวข้องกับคณะที่สนใจศึกษาต่อในอนาคต โดยอาจจะมี 3 วิชาหลักบังคับคือภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์

นักเรียนจะต้องสอบ GCSE ผ่านอย่างน้อย 5 วิชา มีการให้เกรดตั้งแต่ 1-9 โดยมี 9 เป็นเกรดสูงสุดหรือเทียบเท่า A* (เริ่มใช้ระบบภายในปี 2019 เป็นต้นไป) ซึ่งเกรดที่ถือว่าผ่านคือ 4 ขึ้นไปจ้า เมื่อผ่านครบ 5 วิชาก็เป็นอันว่าจบการศึกษาระดับ Secondary Education และสามารถศึกษาในระดับ Further Education ต่อไป

ทำไมต้องเรียนมัธยมปลายที่ประเทศอังกฤษ?

โรงเรียนในสหราชอาณาจักรขึ้นชื่อในเรื่องของความปลอดภัยและมาตรฐานการศึกษาระดับสูง โดยครูผู้สอนไม่เพียงแค่ถ่ายถอดวิชาความรู้ แต่มุ่งเน้นการช่วยเหลือนักเรียนให้ค้นหาตัวตนไปด้วย 

รวมไปถึงการดูแลอบรมนักเรียนโดยปราศจากการลำเอียงให้เป็นคนคุณภาพ มีระเบียบวินัย และปลูกฝังความเป็นผู้นำ กระตุ้นให้เด็กแสดงพรสวรรค์ออกมาผ่านกิจกรรมนอกห้องเรียนต่างๆ นอกจากนักเรียนจะพัฒนาความรู้ในสายวิชานั้นๆแล้ว ยังพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ทั้งจากในห้องเรียนและความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของสังคมต่างชาติด้วย เตรียมพร้อมสำหรับน้องๆที่ต้องการเข้ามหาวิทยาลัยระดับแนวหน้า หรือ ทำงานในระดับ international

FURTHER EDUCATION

เข้าสู่การเรียนหลักสูตร A Level (Advanced Levels) ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เทียบเท่าระดับวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรที่เรียกว่า Sixth-form college หรือ college of further education (ซึ่งเทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ของไทย) โดยใช้เวลาเรียน 2 ปี เลือกเรียน 3-4 วิชา โดยจะมีการให้เกรดดังต่อไปนี้ A* / A / B / C / D / E นักเรียนต้องสอบให้ได้เกรด C ขึ้นไปถึงจะผ่าน

สำหรับนักเรียนต่างชาติที่สนใจไปเรียนต่อระดับปริญญาที่ประเทศอังกฤษ จำเป็นต้องเรียนและสอบผ่านหลักสูตร A Level หรือเทียบเท่า เพื่อศึกษาต่อในระดับ Higher Education โดยหากนักเรียนมุ่งมั่นที่จะเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ การจบด้วยวุฒิ A Level จะเป็นใบเบิกทางที่ดีที่สุดจ้า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

HIGHER EDUCATION

แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือปริญญาตรี โทและเอก

Bachelor’s Degree ระดับปริญญาตรี เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปี (ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์และแพทย์) ในบางคณะนักเรียนสามารถเลือกเรียนแบบ “แซนด์วิช” โดยสามารถแทรกเวลา 1 ปีในการฝึกงานในสายวิชานั้นๆ

การสมัครเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรแทบทั้งหมดจัดการผ่านระบบ UCAS ซึ่งเป็นเหมือนระบบ admission กลางของประเทศ โดย GoUni สามารถให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้วยบริการหลากรูปแบบของเรา

Master’s Degree ระดับปริญญาโท เป็นหลักสูตรการศึกษา 9 เดือนถึง 1 ปีเท่านั้น นอกจากระยะเวลาการเรียนจะสั้นกว่าที่ประเทศไทยแล้ว หลายๆ โปรแกรมระดับปริญญาโทยังเปิดโอกาสให้ฝึกงานจริง และนักเรียนสามารถขอวีซ่าทำงานต่อที่ประเทศอังกฤษหลังจบการศึกษาได้อีก 2 ปีด้วยจ้า

ปริญญาโทจึงเป็นระดับการศึกษาที่นักเรียนไทยสนใจและนิยมไปเรียนต่อเยอะพอสมควรเลยทีเดียว คุณสมบัติหลักๆในการเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่สหาราชอาณาจักรคือ

  • ผลสอบ IELTS
  • เกรดเฉลี่ย และ
  • สายวิชาที่เรียนจบมา

แต่! บางมหาวิทยาลัยมียกเว้นการใช้ IELTS ยื่นสมัคร สำหรับนักเรียนไทยที่จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์หรือมหาวิทยาลัยที่กำหนด

สำหรับนักเรียนที่สนใจต่อปริญญาโทในสายวิชาที่ไม่ได้จบมา พี่ๆ GoUni จะแนะนำให้เรียนปรับพื้นฐาน Pre-Master เตรียมตัวก่อนเข้าเรียน แต่บางมหาวิทยาลัยก็มีสิ่งที่เรียกว่า Conversion Programme จบไม่ตรงสายก็สามารถเรียนต่อปริญญาโทด้านที่สนใจได้เลย ฉะนั้น..ทุกปัญหามีทางออกจ้า

และสุดท้าย Doctor’s Degree ระดับปริญญาเอก เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปีขึ้นไป

ปีการศึกษาที่เปิดเรียนจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ช่วง

  • ภาคต้น (Autumn Term) เริ่มเรียนปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนธันวาคม
  • ภาคกลาง (Spring Term) เริ่มเรียนกลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมีนาคม
  • ภาคปลาย (Summer Term) เริ่มเรียนปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม

การเตรียมตัวไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักร

การเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเรียนนั้น เป็นหนึ่งในขั้นตอนตัดสินใจยาก การจัดอันดับก็แตกต่างกันไปจากหลายสำนัก GoUni ก่อตั้งขึ้นเพื่อที่จะให้ข้อมูลที่เป็นกลางกับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อในประเทศอังกฤษ

การวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของแต่ละมหาวิทยาลัย และประสบการณ์ตรงจากทั้งนักศึกษาของเราและทีมงานที่อยู่ที่อังกฤษเอง มหาวิทยาลัยแต่ละที่มีข้อดีเสียแตกต่างกันไป ดังนั้น GoUni จึงไม่มุ่งเน้นแค่ช่วยหา มหาวิทยาลัยที่ดี แต่หามหาวิทยาลัยที่เหมาะ กับความต้องการและข้อจำกัดของนักเรียนแต่ละคนด้วย!

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทีมงาน GoUni ทุกคนล้วนมีประสบการณ์ตรงในการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ พวกเราเข้าใจดีว่าความเครียดและความรู้สึกกังวลใจในการจะมาเรียนต่อที่ต่างประเทศนั้นเป็นอย่างไร เราช่วยเหลือนักเรียนยื่นใบสมัครมากกว่า 2,500 ใบสมัครต่อปี

GoUni จัดการทุกๆ ใบสมัครอย่างสมบูรณ์แบบ รวบรวมแพ็คเกจบริการต่างๆ รวมถึงผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าเราจะช่วยเหลือทุกขั้นตอนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คุณจะไม่รู้สึกเครียด กังวล หรือหลงทางอีกต่อไป!

ทำไมต้อง GOUNI?

  • ให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • สะดวกสบาย ทำให้น้องๆ มีเวลาในการทำงานหรือตั้งใจเรียน
  • มีสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน สามารถติดต่อกับสถาบันได้โดยตรง
  • ทีมงานของเรามีรุ่นพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยระดับ Top
  • มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการแนะแนวกว่า 15 ปี

ให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย

Official Line: https://lin.ee/SmbZgxh

Tel: 098-825-9840 / 093-323-0500

Facebook: https://m.me/gouni.th

Email: info@gouni.co.th

Scroll to Top