GoUni – เรียนต่อต่างประเทศ

ท้าประชัน! เรียนต่ออังกฤษ vs. ออสเตรเลีย ไปเรียนประเทศไหนถึงจะเป็นตัวเราที่สุดนะ?

ไหนใครที่กำลังลังเล เรียนต่ออังกฤษก็อยากไป หรือออสเตรเลียก็น่าโดน ไปเรียนภาษาที่ไหนดี และที่ไหนถึงจะเหมาะกับเราล่ะ?

เรียนต่ออังกฤษหรือออสเตรเลีย เลือกประเทศไหนถึงจะเป็นตัวเราที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษหรือออสเตรเลีย ทั้ง 2 ประเทศนี้เป็นประเทศยอดฮิตที่หลายๆ คนสนใจและอยากไปเรียนและลองใช้ชีวิตมากๆ เลย น้องๆ คนไหนที่กำลังตัดสินใจหรือลังเลระหว่างสองประเทศนี้ว่าควรไปเรียนที่ไหนดี วันนี้พี่ GoUni พร้อมแล้วที่จะช่วยหาคำตอบว่าที่ไหนตรงใจและตอบโจทย์ lifestyle เรามากที่สุด! ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเล้ยยย

Contents

  • ระยะเวลาเรียน
  • ช่วงเปิดภาคเรียน
  • ค่าเงิน
  • ช่วงโมงทำงาน Part-time ของแต่ละประเทศ
  • Work hard, study hard, but play harder!
  • ความหลากหลายของผู้คน
  • สภาพอากาศ

ระยะเวลาเรียน

❤️ อังกฤษ

สำหรับที่ประเทศอังกฤษ หากเป็นระดับปริญญาโทจะใช้เวลาเรียนเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น (บางหลักสูตรก็นานกว่านั้นนะ แต่ส่วนใหญ่จะเรียนแค่ 1 ปีค่ะ) เพราะฉะนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า แต่ถึงจะเรียน 1 ปี แต่บอกเลยว่าเนื้อหาอัดแน่นสมกับที่เป็นประเทศแห่งการศึกษาและมหาวิทยาลัยเก่าแก่ เรียกว่าสำหรับอังกฤษก็จะเหมาะสำหรับน้องๆ ที่อยากจบเร็วและหางานทำต่อหลังเรียนจบนั่นเอง (ที่อังกฤษหลังจากเรียนจบ น้องๆ สามารถสมัครวีซ่าในโปรแกรม Graduate Route ทำให้เราสามารถอยู่อังกฤษต่อได้อีก 2 ปี ด้วยนะ)

💙 ออสเตรเลีย

สำหรับประเทศออสเตรเลียแล้ว การเรียนระดับปริญญาโทจะใช้เวลาเรียน 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี แล้วแต่หลักสูตรที่เลือกเรียน โดยสำหรับการเรียนการสอนก็ไม่เร่งเนื้อหามาก น้องๆ ที่ไปเรียนก็สามารถแบ่งเวลาไปทำงานเสริมได้ เรียกว่าค่อนข้างจะยืดหยุ่นกว่าที่อังกฤษนั่นเอง

ช่วงเปิดภาคเรียน

❤️ อังกฤษ

ช่วงเวลาที่เปิดภาคเรียนของประเทศอังกฤษจะเป็นช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม และจะเปิดอีกหนึ่งรอบในเดือนมกราคม ใครที่อยากไปเรียนแต่พลาดสมัครไม่ทันช่วงกันยายนก็ยังสามารถไปเรียนในช่วงมกราคมได้เช่นกัน แต่ต้องลองเช็คคอร์สเรียนและมหาวิทยาลัยกับพี่ๆ GoUni ก่อนน้า เพราะในรอบนี้จะเปิดรับเฉพาะบางคอร์สเท่านั้นค่ะ

💙 ออสเตรเลีย

ระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียจะมีการเปิดภาคเรียนช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ (อาจแตกต่างกันไปแล้วแต่หลักสูตร)

ปล. สำหรับคอร์สเรียนภาษาน้องๆ ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป (ไม่จำกัดอายุสูงสุด) ทั้งสองประเทศจะเปิดรับตลอดทั้งปีเลยนะ ใครอยากไปเรียนเดือนไหนก็ไปได้เลยตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป โดยจะเริ่มคลาสทุกๆ วันจันทร์ ไม่มีเปิด-ปิดเทอม ว่างตอนไหนก็สมัครเรียนแล้วไปเรียนโลด!

ค่าเงิน

❤️ อังกฤษ

อังกฤษ £1 ≈ 45 บาท (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2024)

💙 ออสเตรเลีย

ออสเตรเลีย AUD1 ≈ 23 บาท (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2024)

ปล. ค่าเงินจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ชั่วโมงทำงาน Part-time ของแต่ละประเทศ

❤️ อังกฤษ

ตอนที่น้องๆ ไปเรียนที่อังกฤษ หลายๆ คนก็แพลนที่จะทำงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นค่าขนมระหว่างที่เรียนด้วยใช่มั้ยล่ะ รู้มั้ยว่าจริงๆ แล้วการทำงาน part-time จะทำได้มากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับระดับที่ไปเรียน

โดยน้องๆ ที่ไปเรียนระดับ ป.ตรี จะอยู่ที่ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ และสำหรับน้องๆ ที่ไปเรียนระดับปริญญาโทจะสามารถทำงานได้ 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ โดยเริ่มทำงานได้หลังเข้าพำนัก 90 วันค่ะ

ปล. แต่ๆๆๆ สำหรับน้องๆ ที่ไปเรียนคอร์สภาษา ด้วยวีซ่าของเราจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน part-time / full-time ใดๆ ได้นะคะ อย่าทำผิดกฎหมายน้าา

💙 ออสเตรเลีย

น้องๆ ที่ไปเรียนที่ออสเตรเลียสามารถทำงานได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง/2 สัปดาห์ โดยจะมีผลนับจากวันที่เริ่มคอร์สเรียนภาษาเลย และสำหรับนักศึกษาที่มาเรียน ป.โท/เอก เค้าไม่จำกัดชั่วโมงทำงานนะ แต่ก็อย่าทำงานเพลินล่ะ ต้องให้ความสำคัญกับการเรียนมาก่อนไม่งั้นจะส่งผลกับการเรียนได้นะคะ

work hard, study hard but play harder!

❤️ อังกฤษ

เรื่องกิจกรรมยอดฮิตที่อังกฤษ ใครเป็นแฟนบอลต้องห้ามพลาด! แถมการเดินทางไปสเตเดียมของแต่ละเมืองก็ง่ายแสนง่าย ขนส่งก็ปลอดภัย กิจกรรมอื่นๆ มีอีกเพียบ! ทั้งเทศกาลดนตรีที่ส่วนมากจัดช่วงซัมเมอร์ที่อากาศเย็นสบาย ทำให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้มากขึ้นด้วย

ส่วนสายอาร์ตต้องจัดเช่นกัน พิพิธภัณฑ์มีให้เลือกเดินเยอะ ศิลปะการแสดงละครเวทีเป็นที่นิยมมาก ที่สำคัญคือมีส่วนลดค่าตั๋วสำหรับนักเรียนอีกต่างหาก คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

💙 ออสเตรเลีย

สำหรับที่ออสเตรเลียบอกเลยว่ากิจกรรมกลางแจ้งมีให้ทำจุกมาก ปีนเขา เดินป่า ขับรถเล่นบนเขาชมสัตว์ป่าท้องถิ่นอย่างโคอาล่าและจิงโจ้ และใครที่ชอบไปทะเลก็ไม่ต้องวางแผนเยอะ เรียนหรือทำงานเสร็จอยากไปก็หอบของไปได้เลย เนื่องจากเมืองใหญ่ๆ ของที่นี่ติดทะเลกันหมด ทำให้เดินทางง่าย นั่งรถไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำแบบฉ่ำโบ๊ะ ทั้งสกี ดำน้ำ ดูปะการัง (แอบกระซิบว่าทะเลที่นี่เห็นวาฬเล่นน้ำบ่อยมากคุณน้า) แถมเรือยอร์ชก็มีให้เช่าเพี๊ยบบ

ความหลากหลายของผู้คน

❤️ อังกฤษ

เปิดรับคนทุกเชื้อชาติและแนวคิด โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่าง ลอนดอน แมนเชสเตอร์​และเบอร์มิงแฮมที่เป็นจุดหมายอันดับตั้นๆ ของนักเรียนต่างชาติ แต่ก็ยังคงความดั้งเดิมของวัฒนธรรม พิธีกรรมโดยเฉพาะจากราชวงศ์ไว้อยู่คล้ายกับที่ไทย ใครที่อยากซึมซับบรรยากาศแบบนี้สักครั้งในชีวิตต้องไม่พลาด

💙 ออสเตรเลีย

นับว่าเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทั้งวัฒนธรรม ภาษาและการใช้ชีวิตสูงมาก เนื่องจากมีคนจากทั่วทุกมุมโลกอพยพมาลงหลักปักฐานกันที่นี่ ยุโรป หรือเอเชีย ตะวันออกอย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ก็มาเรียนกันเยอะ เจอกันได้ทุกมุมถนน ผู้คนเข้าถึงง่าย ซึ่งนับว่าเป็นที่ปลอดภัยและอุ่นใจสำหรับการอยู่อาศัยได้ดีทีเดียว

สภาพอากาศ

❤️ อังกฤษ

ที่อังกฤษจะมีทั้งหมด 4 ฤดู คือ Summer, Spring, Winter และ Autumn ที่อังกฤษขึ้นชื่อเรื่องอากาศแปรปรวนมาก เพราะประเทศเป็นหมู่เกาะเลยทำให้ฝนตกอยู่บ่อยๆ แนะนำว่าใครจะไปเรียนควรศึกษาสภาพอากาศในช่วงนั้นให้ดีก่อน จะได้แพ็คกระเป๋าถูกเด้อออ

💙 ออสเตรเลีย

ที่ออสเตรเลียเองก็มี 4 ฤดูเช่นกัน แต่เนื่องจากเป็นประเทศขนาดใหญ่ (นอกจากจะเป็นประเทศออสเตรเลีย เค้าก็เป็นทวีปออสเตรเลียด้วยนะเธอ) ทำให้สภาพอากาศในแต่ละเมืองก็จะต่างกันออกไปอีก และที่ต่างไปจากนั้นอีกคือ ออสเตรเลียเริ่มฤดูหนาวในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และฤดูร้อนเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ใครจะไปเรียนก็ลองเช็คอากาศกันดูดีๆ อย่าสับสนกับฝั่งยุโรปน้าา

Scroll to Top